10สถานที่ในลำพูน

1. อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

           ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก ซึ่งอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี องค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ซึ่งเป็นทั้งปราชญ์ที่มีคุณธรรมและนักรบที่มีความสามารถ กล้าหาญชาญชัย อีกทั้งพระนางยังเป็นผู้นำพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมมาเผยแผ่ในดินแดนแถบนี้จนรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบันอีกด้วย โดยทั่วไปสำหรับผู้คนที่ไปกราบไหว้ อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี จะนิยมซื้อโคมมาเขียนคำอธิษฐานและนำไปถวายบูชาตรงหน้าลานอนุสาวรีย์เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีก็จะมีพิธีบวงสรวง กราบไหว้ขอพร องค์อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี และในวันครบรอบการสวรรคตตามปฏิทินจันทรคติ จะมีพิธีบวงสรวงกราบไหว้เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของกษัตรีแห่งนครหริภุญชัยเช่นเดียวกัน 

2. วัดสันป่ายางหลวง

           ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของจังหวัดลำพูน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1074 เป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พระสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยอายุที่ยาวนานกว่าพันปี ทำให้วัดแห่งนี้ต้องผ่านพ้นหลายยุคหลายสมัย สถาปัตยกรรมของที่นี่จึงได้รับอิทธิพลมาจากหลากหลายวัฒนธรรม มีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างสวยสดงดงาม และที่โดดเด่นที่สุดคือ ศิลปะแบบหริภุญชัยแท้ ๆ อย่าง พระวิหารพระโขงเขียว หรือพระวิหารพุทธรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย ที่มีการแกะสลักลายปูนปั้นไว้ในพระวิหารอย่างสวยงาม แม้กระทั่งมุมหน้าจั่ว เชิงเพดานหลังคาด้านต่าง ๆ รวมไปถึงเสาพระวิหาร ก็จะแกะสลัก ลงรักปิดทองไว้ และใช้วัสดุเสาไม้ตะเคียนทอง ไม้แดง จากประเทศลาว พม่า และไทย ในการสร้าง เป็นการผสมผสานระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่เข้าด้วยกัน จึงถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดลำพูนที่ควรไปสักการะสักครั้ง

3. วัดพระยืน

           ชื่อเต็มคือ วัดพระยืนพุทธบาทยุคล เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ประมาณ 29 ไร่ 2 งาน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำกวง เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งหริภุญชัย เมื่อปี พ.ศ. 1213 ภายในวัดแห่งนี้มีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญอยู่หลายจุด เช่น เจดีย์พระยืน ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบพุกาม โดยสร้างบนยกพื้นสูงเป็นชั้นลดหลั่น ลานประทักษิณชั้นบนมีเจดีย์ขนาดเล็กประจำมุม และทั้ง 4 ทิศขององค์เจดีย์ก็เป็นที่ประดิษฐานพระยืนองค์สีทอง ซึ่งกลายมาเป็นที่มาของชื่อวัดพระยืนนั่นเอง นอกจากนี้บริเวณด้านข้างและหน้าบันของพระอุโบสถวัดพระยืนจะมีภาพเขียนจิตรกรรมสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงความวิจิตรบรรจงได้อย่างชัดเจน

4. วัดมหาวัน

          ตั้งอยู่ที่ถนนจามเทวี ชื่อเต็มคือ วัดมหาวันวนาราม เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของลำพูนที่มีอายุยาวนานถึง 1,300 ปี ในอดีตเป็นอารามหลวงในสมัยพระนางจามเทวี และเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์วัดมหาวัน ซึ่งบรรจุพระรอดลำพูน 1 ใน 5 พระเครื่องชุดเบญจภาคีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เชื่อกันว่าพระรอดองค์นี้มีความสักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีและคุ้มครองผู้ที่ไปกราบไหว้บูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายและความวิบัติต่าง ๆ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม รวมถึงให้โชคลาภอีกด้วย สมัยก่อนที่นี่เป็นที่ปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนและเหล่าทหารที่ต้องสู้รบในยามศึก ในปัจจุบันก็ยังเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านทั่วไป

5. พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

          ตั้งอยู่ในเมืองลำพูน เป็นอาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติความเป็นมาอันยาวนานของเมืองลำพูน เมืองที่มีความศรัทธาทางพระพุทธศาสนาที่รุ่งเรืองจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ร่วมเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองลำพูนผ่านภาพถ่าย ทั้งบุคคล เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ โดยมีการจัดแสดงภาพ สิ่งของเครื่องใช้ และวิถีชีวิตของชาวเมืองลำพูนในอดีตได้อย่างงดงาม


6. ประตูท่านาง

           1 ใน 6 ประตูเมืองเก่าแก่ของนครหริภุญชัย และเป็นประตูเมืองโบราณเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรในสมัยก่อน ด้วยระบบการวางผังเมืองที่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีรั้วรอบขอบชิด ปลอดภัยแข็งแรง ประตูท่านาง หรือกำแพงเมืองท่านาง มีลักษณะเป็นกำแพงก่ออิฐถือปูน สร้างขนานไปกับแม่น้ำกวง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่มีความสำคัญอย่างมากในจังหวัดลำพูน

7. กู่ช้าง กู่ม้า

           โบราณสถานที่เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานของจังหวัดลำพูน ลักษณะเป็นสถูปทรงกระบอกปลายมนสอบ มีความเชื่อกันว่า กู่ช้าง เป็นสุสานของพระยาช้างภู่กล่ำงาเขียว ซึ่งเป็นช้างทรงของพระนางจามเทวี และ กู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางเจ้าจามเทวี ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดที่คนลำพูนล้วนให้ความเคารพนับถือ และนิยมมาทำพิธีลอดท้องช้างเจ้าพ่อกู่ช้าง เพื่อหลีกเคราะห์ตามความเชื่อโบราณ

8. วัดดอยติ

           สร้างเมื่อ พ.ศ. 2025 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองบัว หมู่ที่ 2 ตำบลป่าสัก ไฮไลต์โดดเด่นของวัดนี้คือ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชาครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ผู้ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญอย่างยิ่งที่ชาวลำพูนและชาวล้านนาให้ความเคารพนับถือ เสื่อมใสศรัทธา และระลึกถึงพระคุณของท่าน


9. ทุ่งกิ๊ก

           ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นจุดกางเต็นท์ได้ มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติอยู่ท่ามกลางป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ จึงเป็นแหล่งอาศัยหากินของสัตว์ป่าจำพวกเก้ง กวาง หมูป่า กระต่ายป่า ไก่ป่า และนกหายากชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนกหัวขวานใหญ่สีดำ นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกหัวขวานเขียวป่าไผ่ นกเหยี่ยวตีนแดง นกกระทาทุ่ง เป็นต้น ในช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีดอกไม้ป่าหลายชนิดพากันบานเต็มทุ่งกิ๊กสวยงามน่าชมมาก

10. วัดพระธาตุดวงเดียว

          อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่งดงามในอำเภอลี้ ตามตำนานเล่าว่า พระนางจามเทวี ผู้สร้างเมืองลี้ ได้รวบรวมไพร่พลอพยพมาจากเมืองหลวงพระบาง ได้พบกับช้างมงคล จึงได้อธิษฐานและเดินทางล่องมาตามแม่น้ำปิงจนถึงแม่น้ำลี้ ได้พบสถานที่เหมาะสำหรับตั้งบ้านเรือนเป็นหินใหญ่คล้ายไข่นกยูง ช้างมงคลก็ล้มลงที่จุดนั้น พระนางจามเทวีจึงเผาซากช้างและสร้างเจดีย์ครอบไว้ และเรียกว่า เจดีย์ดวงเดียว


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ค้นคว้าด้วยต้อง